ปลดแอกจากกับดักรายได้น้อยสู่การมีอิสรภาพทางการเงินให้กับคุณและครอบครัว

 มีของดีมาบอก

ปลดล็อคคุณให้พ้นจากความน่ากลัวของ
 “กับดักรายได้ปานกลาง”

     

ให้คุณก้าวสู่การเป็นนักลงทุนได้เร็วขึ้น
     การสร้างระบบส่งต่อเพื่อมอบปันผลคล้ายกับระบบสหกรณ์จะช่วยให้คุณรับปันผลอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถนำปันปันผลที่ได้จากการสร้างกลุ่มสหกรณ์ 2 กลุ่ม มาลงทุนในฐานะของนักลงทุนได้ คุณอาจต้องลงทุนสักระยะหนึ่งที่ไร้ความเสี่ยงเช่นเดียวกันกับสหกรณ์ การลงทุนแบบ DCA ในหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเก็บผลประโยชน์ให้คุณทุกเม็ด ก่อนที่จะเกษียณตัวคุณออกมาใช้ชีวิตในแบบอย่างที่คุณอยากจะเป็น คุณจะเป็นผู้มีอิสรภาพทางการเงิน พร้อมมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์สูงสุด ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศไปกับหุ้นส่วนทางธุรกิจของคุณอย่างมีความสุข

วิธีการสร้างรายได้จากเรา เรามอบโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกมีธุรกิจเป็นของตนเอง พร้อมสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยระบบธุรกิจคุณธรรมที่ยุติธรรมที่สุดให้ปันผลกับคนทำงานที่มีผลงาน ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณในระดับเวิลด์คลาส

ให้ทางเลือกที่คุ้มค่าเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ตั้งใจจริงที่จะเข้าร่วมงานกับคุณ
     ผู้มุ่งหวังต้องการเป็นผู้กำหนดช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่แก่พวกเขา....เนื่องจากในปัจจุบัน พวกเขาไม่สามารถกำหนดรายได้ของตัวเอง และอนาคตทางการเงินได้ประสบการณ์ในการร่วมงานกับเราก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้ต้องการสิ่งใดที่จะมาเพิ่มความกดดันให้ตัวเองอีก

 

อย่าลืม ผู้มุ่งหวังจะมองหาเฉพาะโอกาสที่สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตปัจจุบันของพวกเขาได้ อันที่จริงแล้ว จากกิจกรรมที่กลุ่มผู้มุ่งหวังคือพนักงานบริษัท มีผู้มุ่งหวังรายหนึ่งพูดถึงความต้องการในการมีรายได้จากหลายๆ ทาง และทุกคนก็เห็นด้วย พวกเขาทุกคน ล้วนต้องการมีแหล่งรายได้มากกว่าหนทาง...ซึ่งหมายความว่าโอกาสใหม่ใดๆ ก็ตาม ควรที่จะสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตารางการทำงานปัจจุบันของพวกเขาได้ พวกเขาไม่ได้มองหาแหล่งรายได้ใหม่ที่จะมาแทนที่แหล่งเดิม พวกเขาต้องการแหล่งรายได้เสริม

ในช่วงแรกๆหลีกเลี่ยงการพูดชักชวนให้เข้าร่วมธุรกิจ

ความกดดันมากเกินไป ควรสร้างโอกาสให้เป็นทางเลือกของพวกเขาโดยไม่มีแรงกดดันให้ต้องขายหรือสร้างทีมจากอัพไลน์ ยกตัวอย่างของนักธุรกิจที่ซื้อและใช้ ผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดีย

พูดคุยเรื่องการสร้างรายได้แบบเป็นขั้นเป็นตอน

การตอบคำถามผู้มุ่งหวังไม่ใช่เพียงแค่การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีในการตอบของคุณด้วย เมื่อนักธุรกิจแอมเวย์นำเสนออย่างเป็นขั้นเป็นตอน ผู้มุ่งหวังก็เข้าใจแนวคิดทั้งหมดได้มากขึ้น และตอบสนองในเชิงบวก

 

"แยกแยะคำตอบของคุณออกเป็นหลายแบบง่ายๆเพื่อสร้างแนวการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ"

คำพูดที่ใช้ได้ผล

คุณมีรายได้จากเราได้อย่างไร?

 

มีรายได้จากเราได้อย่างไร?

 

มีวิธีสร้างรายได้จากเราได้ 3 ทาง?

 

วิธีแรก คุณขายสินค้าให้ลูกค้าในราคาสูงกว่าสิ่งที่คุณซื้อมา ขายปลีกเพื่อสร้างรายได้ทันที

วิธีที่ 2 คุณได้โบนัสรายเดือนตามจำนวนสินค้าที่ขาย ยิ่งขายมาก ยิ่งได้มาก

วิธีที่ 3 คุณสามารถชวนผู้คนเข้าร่วมทีมและสอนเขาขายสินค้าได้คุณจะได้รับโบนัสเพิ่มเติมจากยอดของทีม

 

 

คุณตัดสินใจเลือกวิธีที่จะสร้างรายได้เองได้ คุณสามารถสร้างธุรกิจให้เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณด้วยการขายสินค้าคุณภาพสูง ลองด้วยตัวคุณเองวันนี้...



ให้คุณลงทุนอย่างชาญฉลาดในตลาดหลักทรัพย์
      แม้การลงทุนในหุ้นจะมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง แต่การลงทุนในหุ้น ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน หลายคนยังคงลงทุนในหุ้นอย่างต่อเนื่อง เรามาดูว่าเพราะอะไร หุ้นจึงยังคงเป็นที่สนใจอยู่
      1. การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ทั้งในรูปแบบเงินปันผล (Dividend) และกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain) นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนการลงทุนรูปแบบอื่นๆ เช่น สิทธิในการจองซื้อหุ้นออกใหม่ (Subscription Right) โดยกรณีที่บริษัทที่ต้องการออกหุ้นเพื่อเพิ่มทุน บริษัทจะให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในการซื้อหุ้นที่ออกใหม่ก่อนบุคคลภายนอกในราคาที่กำหนด ซึ่งการให้สิทธิเช่นนี้เป็นการปกป้องผู้ถือหุ้นเดิม ไม่ให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของ และอำนาจการควบคุมกิจการลดน้อยลง เมื่อมีจำนวนหุ้นออกจำหน่ายมากขึ้น
      2. ลงทุนในหุ้นจะได้การมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ตามสัดส่วนการถือครอง โดยผู้ลงทุนสามารถเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงคะแนนเสียงในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญๆ ของบริษัท เช่น เมื่อบริษัทจะเพิ่มทุน จ่ายเงินปันผล ควบรวมกิจการ เป็นต้น
     3. ลงทุนในหุ้น ทำให้มีสภาพคล่องเมื่อต้องการเปลี่ยนเป็นเงินสด เนื่องจากมีตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทหลักทรัพย์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นหรือเปลี่ยนมือในการถือหุ้นได้อย่างสะดวก และคล่องตัว ในราคาที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างพึงพอใจ มีการส่งมอบค่าหุ้น และโอนความเป็นเจ้าของหุ้นตรงตามกำหนดเวลา อย่างไรก็ตาม หุ้นของแต่ละบริษัท อาจมีสภาพคล่องที่แตกต่างกัน โดยหุ้นบางบริษัทที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนจะซื้อง่าย ขายคล่อง ในขณะที่หุ้นของบางบริษัทที่ไม่ค่อยมีผู้สนใจก็อาจจะหาผู้ซื้อขายได้ยากกว่า
(ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

        
 ด้านที่ 4 : I (INVESTOR: นักลงทุน) “การเอาเงิน…ไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้
     

สร้างปันผลให้คุณนำปันผลไปลงทุน ให้เงินทำงานให้คุณ

     ใช้เงินเพื่อสร้างผลตอบแทนโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์มากกว่าการออกแรงและใช้เวลาในการทำงาน ซึ่งต้องรับความเสี่ยงได้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด อย่างไรก็ตาม การลงทุนก็มีความเสี่ยงสูงและใช่ว่าทุกการลงทุนจะได้กำไรจำเป็นต้องมีต้นทุนและความรู้ทางการเงินเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ

         ควรทำความเข้าใจความหมายของการหาเงินในแต่ละด้าน คุณเองนั้นสร้างรายได้อยู่ในประเภทใด ?  การหาเงินทั้ง 4 ด้าน  งาน  4 แบบนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป  ข้อดีของงานในฝั่ง เจ้าของธุรกิจ (B) และ นักลงทุน (I) คือมีโอกาสได้รับรายได้จำนวนมากโดยที่ไม่ต้องลงแรงเองทั้งหมด ส่วนข้อจำกัดก็ต้องมีความรู้ทางการเงินและรู้จักควบคุมความเสี่ยงของการขาดทุนส่วนงานในฝั่ง ลูกจ้าง (E) และ เจ้านายตัวเอง (S) ให้ความมั่นคงแต่ขาดอิสรภาพด้านรายได้ซึ่ง บางคนเลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานประจำจนเกษียณอาจจะต้องใช้เวลาหลาย 10 ปี แต่บางคนเลือกที่จะนำเงินที่ได้ไปต่อยอดต่างๆ เช่น การเล่นหุ้นก็จะทำให้มีเงินก้อนไวมากขึ้น

           การเป็นพนักงานประจำ สามารถวางแผนงานที่ทำได้ และพัฒนาตนเองให้เติบโตในสายงานยังเป็นเรื่องหลักที่คุณจำเป็นจะต้องพยายามทำครับ ขณะเดียวกันคุณก็สามารถเพิ่มรายได้จากการลงทุน (I) แต่ต้องอาศัยความรู้ทางการเงิน เพราะหากคุณเข้าไปลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้ สุดท้ายอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งเราได้ปิดจุดบอดแล้ว โดยคุณสามารถนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้สำหรับการเป็นยอดมนุษย์เงินเดือนเพียงระยะสั้น เพื่อช่วยให้คุณเอาชนะเกมการเงินในชีวิตจริงกันและเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงครับ


ยกระดับธุรกิจ สู่ Next Generation of E-Commerce พร้อมบุกเปิดตลาดใหม่ Health and Wellness มูลค่า 70,000 ล้าน

ในวันที่โลกธุรกิจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ส่งผลให้ทุกธุรกิจต้องปรับทัพขนานใหญ่​ “สหกรณ์บริการ” ธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 35 ปี เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถครองใจผู้บริโภคในทุกยุคสมัย พร้อมเท่าทันเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถยืนได้บนการแข่งขันในตลาด E-Commerce ที่รุนแรงอย่างมั่นคงและยั่งยืน เราจึงก้าวไปสู่การทรานส์ฟอร์เมชั่นใหม่ที่เรียกว่า Next Generation of E-Commerce ซึ่งมีรูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวในหลายมิติ พร้อมกับกับลงทุนเพิ่มสูงถึง 1,000 ล้านบาท “ให้คุณปลอดภัยจากการดิสรัปในครั่งต่อๆไป” เราต้องทำอะไรบ้าง ที่ทำให้ยังครองความเป็นผู้นำตลาดยืนอันดับ 1 ในไทย ชวนมาฟังกลยุทธ์ต่างๆ จากซีอีโอคนล่าสุด

ทุ่มงบเพิ่ม 1,000 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่มิติใหม่ของ E-Commerce

คุณทศพร เริ่มต้นเล่าว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมาแม้จะมีหลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แต่ปรากฏว่า แอมเวย์ไม่ได้รับผลกระทบเลย และยังลุยลงทุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยยอดขายในปี 2022 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% โดยในปี 2023 เดือนกรกฎาคม มียอดขายออนไลน์ ในส่วนการสั่งซื้อบนแพล็ตฟรอ์มอยู่ที่ 53% ซึ่งเป็นผลมาจากความทุ่มเท ในการที่เราดำเนินการ Transformation ในมิติต่างๆ

ที่สำคัญยัง ทุ่มงบประมาณเพิ่มสูงถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า Next Generation of E-Commerce ตั้งแต่การลงทุนเรื่องพัฒนาแพล็ตฟอร์มออนไลน์ในทุกช่องทาง การพัฒนาปรับปรุงแวร์เฮาส์ รวมไปถึงการยกระดับนักธุรกิจให้ก้าวไปมากกว่าธุรกิจอย่างที่เราเคยรู้จัก

เราได้ยกระดับพัฒนาแพล็ตฟอร์มออนไลน์

ในด้านการลงทุนเพื่อพัฒนาแพล็ตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันผู้คนเริ่มคุ้นชินกับการทำธุรกิจบนช่องทางนี้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การพัฒนาให้แพล็ตฟอร์มนี้เกิดความเสถียรและใช้งานง่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจ เราได้ดำเนินการการแตกการโฮสต์บนคราวด์ ไปในหลายๆ จุด เพราะเมื่อเวลาที่เว็บมีปัญหา จะสร้างแรงกระจายทราฟฟิกออกไป เป็นเทคโนโลยีขั้นแอดวานซ์ ที่ทำสำเร็จแล้วและทำให้เว็บของเขาเร็วขึ้น 9 เท่า ทราฟฟิกรับได้เพิ่มขึ้น 9 เท่า ดังนั้น รูปแบบนี้จะเกิดที่ไทยเช่นกัน พร้อมกับการตั้งเป้าหมายให้เพิ่มเป็น 10 เท่าด้วย

ทั้งนี้ ช่องทางออนไลน์ที่แอมเวย์ใช้เป็นช่องทางหลักปัจจุบัน ได้แก่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และ LINE โดยปัจจุบัน มียอดการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 50% ภายใน 3 ปี และมีทุกกลุ่มอายุตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงผู้สูงวัย ก็สามารถใช้งานบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ได้หทดแล้ว ดังนั้น หนึ่งในงบประมาณเพิ่มเติมฯ ที่ตั้งใจทุ่มเทไป สำคัญมากคืองบเพิ่มฯ การจัดอบรมการอัปสกิลการใช้งานแพล็ตฟอร์มออนไลน์ให้กับหุ้นส่วนทางธุรกิจของเราทุกคนเพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้ทันกับโลกในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ในแง่ของการสมัครสมาชิกหรือสมัครเป็นนักธุรกิจ เราก็มีการปรับรูปแบบใหม่ สามารถสมัครกันผ่านทางมือถือได้เลยรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นตอนนี้ นอกจากยอดขายเพิ่มแล้ว ยอดการสมัครสมาชิกก็เพิ่มขึ้นด้วย

เราทำการปรับปรุงแวร์เฮาส์ใหม่ ลีดนำด้วยเทคโนโลยีแล้ว

นอกเหนือจากการลงทุนบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์แล้ว ในส่วนของแวร์เฮาส์ก็เป็นอีกสิ่งที่เราให้ความสำคัญและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สะดวกและทำให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจของคุณ

ในงบเพิ่มฯ 1,000 ล้านบาท เราได้ ลงทุนในส่วนการปรับปรุงแวร์เฮาส์ประมาณ 40 ล้านบาท โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเช็คสต๊อก ติดต่อซัพพลายเชน การจัดส่ง ฯลฯ อย่างห้องทำความเย็น ของเราเป็นระบบ Hybrid Chiller ที่รักษาสิ่งแวดล้อม และ Sustainability ด้วย เฉพาะตรงนี้คือการลงทุนครึ่งหนึ่งของแวร์เฮาส์ (20 ล้านบาท) ทำให้สินค้านิวทริไลท์ (Nutrilite) จัดเก็บในอุณหภูมิที่พิเศษที่ถูกต้อง ก่อนจัดส่งไปที่บ้านหรือที่ช้อป

“วันนี้ยอดขายผลิตภัณฑ์ Nutrilite และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขึ้นมาเป็น 70% ของพอร์ตฟอลิโอ”

เหตุผลสำคัญที่แอมเวย์ให้ความสำคัญในเรื่องแวร์เฮาส์ เนื่องจากว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทสุขภาพของแบรนด์เติบโตที่สุด ดังนี้

  • 70% คือยอดขายผลิตภัณฑ์ “นิวทริไลท์” และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ
  • 15% เป็นสินค้าบิวตี้ Artistry (อาร์ทิสทรี)
  • 10% เป็นสินค้าประเภท Durable products (สินค้าคงทน) กรองน้ำ กรองอากาศ
  • 5% เป็นสินค้าอื่นๆ เช่น Personal care หรือพวกสินค้าเกษตร ฯลฯ

นอกเหนือจากการทรานส์ฟอร์มตัวเองแล้ว กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แอมเวย์ครองตำแหน่งผู้นำตลาด ก็คือ “สุขภาพนำธุรกิจ” ขออธิบายว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ที่ได้เปิดตัว บอดี้คีย์ (Body Key) ครั้งแรก ก็ประสบความสำเร็จมากๆ เลยตอนนั้นยอดขายเป็นอันดับ 5 ของโลก ปัจจุบันขึ้นอันดับ 1 ของโลกแล้ว

สาเหตุเพราะเราไม่ได้ทำการขายตัว “บอดี้คีย์” ตัวเดียวแต่นักธุรกิจของเรานำเอามารวมเป็นสินค้าเซ็ตลดน้ำหนัก ทั้งโปรตีน, น้ำมันปลา ซึ่งทั้งหมดคืออันดับหนึ่ง แล้วก็นำทั้งสามตัวมาขายเป็นเซ็ตลดน้ำหนัก ทำให้ยอดขาย “นิวทริไลท์” เติบโตมากเลย และเราจะไม่หยุดแต่เพียงแค่นี้เราจะนำกลยุทธ์ “สุขภาพนำธุรกิจ” มาต่อยอดใช้กับเซ็ตอื่นๆ ต่อไป

“ดังนั้น วันนี้เราจะบอกว่าเราไม่ได้ขายสินค้าเป็นตัวๆ เหมือนแต่ก่อน เรามี 250 รายการก็จริง แต่เราจะแนะนำให้เป็นโซลูชั่น”

สร้างคอมมูนิตี้ในกลุ่มนักธุรกิจ พร้อมอัปสกิลด้านคอนเทนต์

อีกสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่เราลงทุนหนักมากก็คือ People การสร้างเสริมศักยภาพให้กับหุ้นส่วนทางธุรกิจของเราทุกคน ผ่านการสร้างคอมมูนิตนี้ที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้น โดยมีทั้งการกิจกรรมเวิร์คช้อป กิจกรรมชาเลนจ์ การนัดพบปะสังสรรค์ร่วมกัน ฯลฯ โดยเรามีการปรับปรุงช้อปที่มีอยู่ 82 สาขา ทยอยปรับให้มีพื้นที่ของการเป็น Center of Community ด้วย คือเดิมเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าอย่างเดียว แต่ปัจจุบันเราปรับรูปแบบให้เป็นคาเฟ่ด้วย มีเครื่องดื่มมีอาหารว่างจำหน่าย เพื่อให้กลุ่มนักธุรกิจได้มาพบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกัน ตรงตามเป้าหมายหลักที่เราวางไว้ ซึ่งปัจจุบันมีรูปแบบนี้มากกว่า 10 แห่งแล้ว

 ตัวเซอร์ไพรส์กับโมเดลธุรกิจเดิมเราคุ้นเคยกับธุรกิจในแบบบปากต่อปาก (words of mouth) คือเราเจอเพื่อน เราเจอคนในครอบครัว คนที่ดูแลสุขภาพ เราก็บอกต่อๆ กัน นี่คือโลกแบบออฟไลน์ แต่วันนี้เมื่อโลกเป็นออนไลน์มากขึ้น การทำธุรกิจที่จะมายิงแอดฯ สู้กัน หรือซื้อสื่อโฆษณา จ้างดาราพรีเซ็นเตอร์ ทำไม่ค่อยได้ผลแล้ว เพราะผู้บริโภคไม่ค่อยเชื่อในตัวแบรนด์ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นโลกของอินเตอร์เน็ต การนำรูปแบบ words of mouth มาใช้ในช่องทางออนไลน์ก็จะเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่า มันคือรูปแบบการรีวิวสินค้านั่นเอง

สิ่งที่เราทำก็คือ ใช้วิธีการปากต่อปากโดยที่นักธุรกิจเป็นคนเจเนอเรตคอนเทนต์ขึ้นเอง แต่การจะทำให้คอนเทนต์ได้รับความสนใจและน่าดึงดูด ก็จะจำเป็นต้องมีสกิลในส่วนนี้เช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของโครงการที่ชื่อว่า “you are  Creator คือการฝึกบทบาทนักธุรกิจเป็น Content Creator โดยการฝึกให้ทำคอนเทนต์บนออนไลน์ สอนเขาว่า โพสต์แบบไหนแล้วเกิดอิมแพค โพสต์แบบไหนแล้วเกิดไลค์หรือเกิดการอินบอกซ์ สร้างครีเอทิวิตี้ สอนการถ่ายภาพหรือทำคลิปโปรดักส์ต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จะมีการเชิญสปีกเกอร์ที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ในโลกออนไลน์มาให้คำแนะนำ แต่ต้องระมัดระวังหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายโฆษณาหรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งดำเนินการมาได้ 3 ปีแล้ว ถึงวันนี้ก็มีนักธุรกิจเข้าร่วมโครงการไป 5 หมื่นกว่าคน

เป้าหมายก้าวไปสู่ยอดขาย 30,000 ล้าน  

แต่ความสำเร็จเดิมๆ ของการเป็นเบอร์ 1 ตลาดอาหารเสริมยังไม่พอสำหรับความสำเร็จของคุณ ดังนั้น ก้าวต่อไปคือการลงไปยังน่านน้ำตลาด Health and wellness ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่โตมากที่สุด

สำหรับตลาด Health and wellness โลกใหญ่โตมหาศาลมาก มีมูลค่าสูงถึง 1.2 Trillian US Dollar โดยที่ Global ของเรา แคปเจอร์แค่ 2% เท่านั้นเอง สำหรับประเทศไทย ตลาดอาหารเสริมไทยอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะโตขึ้นอีก 7% ดังนั้น ซึ่งถือว่าเป็นเซ็กเมนต์ที่มีการเติบโตในอัตราที่ดีมาก และเรายังเป็นผู้เล่นที่เป็นเบอร์ 1 อยู่ ดังนั้นถ้าถามว่าจะให้เราอยู่ในตลาดนี้ต่อไปได้ไหม คำตอบก็คือได้เราไปต่อได้แน่นอน แต่เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราพร้อมที่จะลุยไปยังมหาศาลแห่งใหม่อีก

ก้าวต่อไปที่จะขอปักธงต่อไปก็คือ  ตลาด Health and wellness อย่างที่กล่าวไป ซึ่งมีมูลค่าตลาดนี้ สำหรับประเทศไทยอยู่ที่ 300,000 กว่าล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่า 70,000 (ตลาดอาหารเสริม) ถึง 5 เท่า ดังนั้น การวางเป้าหมายที่จะไปแตะที่ตัวเลข 30,000 ล้านบาทของแอมเวย์ เราว่าเราทำได้

“เราไมได้คุยกันแต่พัฒนานิวทริไลท์ แต่เรายังคุยกันถึงเรื่องของสุขภาพและการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์ในมืออยู่แล้วตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกรองน้ำ กรองอากาศ ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพวกสมาร์ทดีไวซ์ในการดูแลสุขภาพต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นตลาดมันใหญ่กว่าเดิมมาก และเรามั่นใจว่าเราไปได้อย่างแน่นอน”

เริ่มต้นธุรกิจกับเรา

คำตอบของการสร้างรายได้เสริมด้วยการเป็น เจ้าของธุรกิจ ที่จัดสรรรูปแบบการทำงานได้เอง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ให้คุณได้บริหารจัดการชีวิตส่วนตัว และการทำงานได้เอง (work life balance)

ยืดหยุ่น พร้อมทั้งเลือกได้ว่าต้องการสร้างรายได้มากเท่าใด และเวลามากขนาดไหน เพราะความสำเร็จกับแอมเวย์สร้างได้ ไม่จำกัด

พิสูจน์ด้วยระยะเวลามากกว่า 60 ปี ที่เราให้ความสำคัญและ สนับสนุนคุณเพื่อบรรลุทุกเป้าหมาย ไม่ว่าเป้าหมายชีวิต ของคุณจะเป็นอะไรก็ตาม

สมัครวันนี้ รับส่วนลดเบื้องต้น 300 บาท

พร้อมรับส่วนลดและโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย

รับส่วนลด A Start ทันที สูงสุด 15%​

ซื้อสินค้า Best Seller ได้ในราคาพิเศษ​

รับคูปองส่วนลด 300 บาทเมื่อเลือกรับ E-Starter Kit​

สมัครเป็นนักธุรกิจวันนี้ลดได้ทันที มีรายได้เสริมง่ายๆ รับเงินคืน 21% ทุกเดือน

สร้างรายได้ง่ายๆ อย่างไม่จำกัด

วิธีเริ่มต้นในการทำธุรกิจ โอกาสการสร้างรายได้จากธุรกิจแอมเวย์ไม่มีขีดจำกัด ขึ้นอยู่กับการใช้ศักยภาพของตัวคุณเองอย่างเต็มที่

โดยคุณสามารถสร้างรายได้จากการทำธุรกิจได้ง่ายๆ จากวิดีโอนี้เพียง 1 นาที คุณจะได้คำตอบทั้งหมดที่คุณต้องการ


ทริปสุด Exclusive ประจำปี / ท่องโลกไปกับ We touch the world

มากกว่ารายได้ที่คุณจะได้รับ คือโอกาสที่จะเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านการสัมมนาในต่างประเทศ พร้อมชาร์จไฟในตัวคุณ เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด


ทางรอดของ SMEs ไทยที่ต้องการก้าวกระโดดไปเป็นดาวรุ่งของแต่ละอุตสาหกรรมจึงต้องอาศัยการเปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของลูกค้าและสังคม และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เป็นพลวัตอย่างรวดเร็วตลอดเวลา นี่ละ...วิถีปกติรูปแบบใหม่ของธุรกิจและชีวิต 

“New Normal ทำให้โลกอนาคตขยับเข้ามาหาเราเร็วยิ่งขึ้น ในมุมของคนที่ทำธุรกิจแอมเวย์เป็นอาชีพก็ยิ่งตอบโจทย์เรื่องอนาคต ความท้าทายครั้งนี้จึงกลายเป็น Positive กลับมาในเชิงธุรกิจอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วโมเดลธุรกิจในอนาคตที่จะอยู่รอดได้ ยังต้องอาศัยการเชื่อมต่อของผู้คน เพราะหุ่นยนต์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนมนุษย์ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่บน AI หรืออยู่บนโซเชียลมีเดียได้ตลอดเวลา ถึงจุดหนึ่งก็ยังอยากสัมผัสอยากเห็นหน้าผู้คน ซึ่งธุรกิจขายตรงมาจาก Person to Person ในขณะเดียวกันเราก็สร้าง Digital Platform ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้เร็วขึ้น สะดวกมากขึ้น”

แม้ว่ามาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบการทำธุรกิจขายตรงในเรื่อง Personal Touch อยู่บ้าง แต่แอมเวย์ก็นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นตัวช่วย เช่น Virtual Meeting ทำให้สามารถมองเห็นหน้ากันอยู่ ยังได้บรรยากาศของการเป็น Personal Touch ในระดับหนึ่ง อาจจะไม่ได้สื่อทุกอารมณ์ความรู้สึกเหมือนการที่ได้พูดคุยกันต่อหน้า แต่ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเพราะสามารถทำได้ในทุกช่วงเวลาที่ต้องการ 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องของแอมเวย์ สะท้อนภาพของ Brand Image ที่แข็งแกร่งในการเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่นำเสนออาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง และสินค้าที่ตอบโจทย์เพื่อการอยู่ดีมีสุขให้แก่ผู้คนได้ในทุกวิกฤต

 “Brand Purpose ของเราจึงมีความคลาสสิก ทำให้การทำธุรกิจกับแอมเวย์แตกต่างจากอาชีพอื่นๆ จากวันนี้ไปอีก 10  ปี 20 ปีข้างหน้า Brand Purpose ของเราจะยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน เพราะเราเชื่อมั่นว่า เราคือแบรนด์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนได้ทุกยุคทุกสมัย” 


สร้างธุรกิจที่สร้างแสนง่ายเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เส้นก๋วยเตี๋ยวเตรียมให้คุณพร้อมแล้ว

คำอธิบาย

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คือบะหมี่แห้งที่ทำสำเร็จเตรียมทำมาให้คุณปรุงทานแล้ว โดยปกติจะทานเมื่อได้เติมน้ำร้อนประมาณ 3 − 5 นาที ในปัจจุบันได้มีมากมายหลายยี่ห้อ มีทั้งชนิดซอง-ถ้วย และมีรสชาติต่าง ๆ มากมาย ถึงแม้ว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่จะมาจากทวีปเอเชีย ไม่ว่า จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย เกาหลี แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีการนิยมทานกันในยุโรปเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ธุรกิจที่น่าทำที่ให้คุณคุ้มค่าในทุกมิติ

การก้าวเข้าสู้ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เป็นยุคที่ทุกคนทุกธุรกิจต้องปรับตัว ปรับฐานธุรกิจครั้งใหญ่ โลกมีการใช้เทคโนโลยีใหม่มาใช้ในทุกภาคส่วน ความสามารถเฉพาะตัวที่เคยเป็นที่ต้องการในยุคก่อน กลายเป็นของที่ไม่จำเป็นและล้าหลังไปหมดเราจะทำอย่างไรต่อไป ได้มีการออกมาแนะนำให้ทุกคนต้องการการ Relearn Reskill ในทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี คศ 2030 เป็นต้นไป

     ทกคนถ้ามีทางเลือกคงจะเลือกไปในทางเรียนรู้ใหม่ในเทคนิคที่จะไปเพิ่มทักษะงานให้สามารถที่จะทำงานร่วมไปกับธุรกิจในโลกของยุค 4.0 ต่อไปและหากคุณมีความรู้สึกว่าคุณคงไปกับขบวนไม่ได้ก็มีความจำเป็นต้องหาตัวช่วยไปตามความต้องการของคุณ การไม่เตรียมการใดๆเป็นความเสี่ยงที่คุณอาจจะต้องถูกปรับออกจากระบบที่ระบบได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้าได้กับเทรนของอุตสาหกรรมใหม่ไว้แล้ว

     เราเป็นหนึ่งในตัวช่วยหลายๆตัวที่ยังคงให้บริการในเรื่องของโอกาสของชีวิต มีโครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่เพื่อก้าวไปสู่ผู้ประกอบการมืออาชีพแห่งอนาคต เราจะผลักดันให้คุณเป็นหัวหน้ากลุ่มคนที่มารวมตัวกัน ใช้ผลิตภัณท์คุณภาพสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ได้ ทำให้เรามีสุขภาพดี เราจึงอยากจะแชร์และอยากบอกต่อเพื่อให้ทุกๆคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นบำรุงสุขภาพ ป้องกันสุขภาพ ตลอดจนช่วยเสริมการรักษาของคุณหมอทำให้คุณมีสุขภาพกลับมาเป็นปกติแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป
ในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านในยุค 3.0 ไปเป็นยุค 4.0 นั้น การเอาชนะการเงินเฟ้อในชีวิตจริงด้งเทคนิคเงิน 4 ด้าน ESBI (ฉบับหนังสือพ่อรวยสอนลูก)อาจเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เวลาและดูเหมือนจะไกลตัวของพวกเราออกไป การต่อยอดด้วยธุรกิจที่สำเร็จอยู่แล้วจะให้ความสำเร็จกับคุณได้ง่ายกว่า คุณเรียนรู้การเริ่มทำเริ่มสร้างอย่างถูกต้องและประพฤติตนอยู่ในกฎและจรรยาบรรณอย่างเข้มข้นจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จและมีวิถีชีวิตที่ดีกว่าเดิมอย่างมีความสุขตลอดไป



 รู้จักกับความหมายของเงินทั้ง 4 ด้าน
ด้านที่ 1 : E (Employee : ลูกจ้าง) “งานที่ใช้เวลาแลกเงิน..รายได้สม่ำเสมอ”
การหาเงินที่ได้จากการรับจ้าง มีความมั่นคงของอาชีพ รู้จำนวนรายรับแน่นอน ซึ่งต้องเอาเวลาไปแลกกับเงิน ยกตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัท, ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ด้านที่ 2 : S (Self – Employed: เจ้านายตัวเอง) “ยิ่งทำเยอะ…ยิ่งได้รายได้เยอะ”
ได้รับรายได้ตามความสามารถ ประสบการณ์ หรือความนิยม มีความอิสระในการทำงาน แต่ต้องรับมือกับความเสี่ยงทางการเงินที่ไม่สม่ำเสมอเป็นอาชีพเฉพาะทาง เช่น ทนายความ นักบิน นายหน้า แพทย์ หรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัวหรือธุรกิจขนาดเล็ก
ด้านที่ 3 : B (BUSINESS OWNER: เจ้าของธุรกิจ) “ให้ระบบ..สร้างรายได้”
ได้รับรายได้จากธุรกิจจากการจ้างคนในองค์กรให้ทำงานเป็นระบบ ทำให้ไม่ต้องลงแรงงานเองทั้งหมด มีความอิสระในการทำงาน อย่างไรก็ตามต้องรับมือกับความเสี่ยงทางธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจ
ด้านที่ 4 : I (INVESTOR: นักลงทุน) “การเอาเงิน…ไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้”

ใช้เงินเพื่อสร้างผลตอบแทนโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์มากกว่าการออกแรงและใช้เวลาในการทำงาน ซึ่งต้องรับความเสี่ยงได้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด อย่างไรก็ตาม การลงทุนก็มีความเสี่ยงสูงและใช่ว่าทุกการลงทุนจะได้กำไรจำเป็นต้องมีต้นทุนและความรู้ทางการเงินเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะเข้าใจความหมายของการหาเงินในแต่ละด้าน คุณเองนั้นสร้างรายได้อยู่ในประเภทใดครับการหาเงิน 4 ด้าน  งาน  4 แบบนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป  ข้อดีของงานในฝั่ง เจ้าของธุรกิจ (B) และ นักลงทุน (I) คือมีโอกาสได้รับรายได้จำนวนมากโดยที่ไม่ต้องลงแรงเองทั้งหมด ส่วนข้อจำกัดก็ต้องมีความรู้ทางการเงินและรู้จักควบคุมความเสี่ยงของการขาดทุนส่วนงานในฝั่ง ลูกจ้าง (E) และ เจ้านายตัวเอง (S) ให้ความมั่นคงแต่ขาดอิสรภาพด้านรายได้ซึ่งบางคนเลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานประจำจนเกษียณอาจจะต้องใช้เวลาหลาย 10 ปี แต่บางคนเลือกที่จะนำเงินที่ได้ไปต่อยอดต่างๆ เช่น การเล่นหุ้นก็จะทำให้มีเงินก้อนไวมากขึ้น

           การเป็นพนักงานประจำ สามารถวางแผนงานที่ทำได้ และพัฒนาตนเองให้เติบโตในสายงานยังเป็นเรื่องหลักที่คุณจำเป็นจะต้องทำครับขณะเดียวกันคุณก็สามารถเพิ่มรายได้จากการลงทุน (I) แต่ต้องอาศัยความรู้ทางการเงิน เพราะหากคุณเข้าไปลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้ สุดท้ายอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับมนุษย์เงินเดือนเพื่อช่วยให้คุณเอาชนะเกมการเงินในชีวิต จริงกันครับ

 

 

แนวทางนี้ได้รับการตอบรับและปฎิบัติตามกันแบบล้นหลามประสบความสำเร็จอย่างมาก



พ่อรวพ่อรวยสอนลูก (อังกฤษRich Dad Poor Dad) เป็นหนังสือ ค.ศ. 1997 ที่เขียนโดยโรเบิร์ต คิโยซากิ และชารอน เลชเตอร์ ซึ่งสนับสนุนความสำคัญของการรู้หนังสือทางการเงิน (การศึกษาทางการเงิน), อิสรภาพทางการเงิน และสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนในทรัพย์สิน, การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์, การเริ่มต้นและการเป็นเจ้าของธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มความฉลาดทางการเงิน (ไอคิวทางการเงิน) เพื่อปรับปรุงธุรกิจและความสามารถทางการเงิน โรเบิร์ต คิโยซากิ ออกหนังสือตามมาคือพ่อรวยสอนลูก #2 เงินสี่ด้าน และพ่อรวยสอนลงทุน เขามีหนังสืออย่างน้อยหนึ่งโหลที่ได้รับการตีพิมพ์

พ่อรวยสอนลูกได้รับการเขียนในสไตล์ของนิทานคติสอนใจ โดยอิงจากชีวิตของคิโยซากิที่แสดงแก่คนทั่วไป[1] บุคคลในฐานะ "พ่อรวย" เป็นพ่อของเพื่อนที่สะสมความมั่งคั่งอันเนื่องมาจากการประกอบการและการลงทุนที่ชาญฉลาด ในขณะที่ "พ่อจน" ซึ่งเป็นพ่อของคิโยซากิ ซึ่งเขาบอกว่าทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่ไม่เคยได้รับความมั่นคงทางการเงิน ไม่มีใครพิสูจน์ได้เลยว่าพ่อรวย ชายผู้ให้คำแนะนำคิโยซากิทั้งหมดสำหรับการใช้ชีวิตที่ร่ำรวยนั้น เคยมีอยู่จริงหรือไม่ และไม่เคยมีใครมีพยานหลักฐานถึงความมั่งคั่งมากมายมหาศาลที่ได้รับโดยคิโยซากิก่อนที่จะมีการเผยแพร่พ่อรวยสอนลูกในปี ค.ศ. 1997

รายละเอียด : พ่อรวยสอนลูก (พิมพ์ครั้งที่ 25)

พ่อรวยสอนลูก (พิมพ์ครั้งที่ 19)

20 ปีมาแล้วที่หนังสือ Rich Dad Poor Dad หรือ พ่อรวยสอนลูก ซึ่งเขียน
โดย โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นความรู้ทางการเงินส่วนบุคคล
สำหรับคนทั่วโลก ด้วยคำสอนทางการเงินของพ่อรวย ที่สวนกระแสกับกูรูรุ่นเก่าๆ
และความเชื่อแบบเดิมๆ ทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจ

หนังสือ พ่อรวยสอนลูก เล่มนี้ จะบอกเล่าถึงความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าต้องมีเงินมาก
ถึงจะรวยได้ ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าบ้านเป็นทรัพย์สิน ความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่า
โรงเรียนจะสอนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ถูกต้องให้กับลูกหลานของเรา โดยจะให้นิยาม
ของทรัพย์สินและหนี้สินที่ถูกต้อง พร้อมความรู้ทางการเงินสำหรับทุกคนที่ต้องการ
ควบคุมอนาคตทางการเงินของตัวเอง    

สำหรับฉบับฉลองครบรอบ 20 ปี ในครั้งนี้ มีการฉบับปรับปรุงใหม่ ด้วยการเพิ่ม
สรุป 9 บทเรียน และคำถามในแต่ละบท เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคน สำหรับอ่าน
อภิปราย และเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มเพื่อและครอบครัว ตลอดจนให้คำแนะนำว่าเรา
ควรสอนเด็กๆ ในเรื่องเงินอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกเขารับมือกับความ
ท้าทาย และโอกาสในวันข้างหน้า เพื่อให้พวกเขามั่งคั่งในแบบที่พวกเขาควรได้รับ


สารบัญ : พ่พ่อรวยสอนลูก (พิมพ์ครั้งที่ 25)

    • 20 ปี...20/20 เหลียวหลัง แลหน้า
      วันนี้เมื่อ 20 ปีก่อน
    • บทนำ พ่อรวย-พ่อจน
    • บทที่ 1 บทเรียนที่ 1 : คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน
    • บทที่ 2 บทเรียนที่ 2 : ทำไมต้องมีความรู้ทางการเงิน
    • บทที่ 3 บทเรียนที่ 3 : สร้างธุรกิจของตัวเอง
    • บทที่ 4 บทเรียนที่ 4 : ประวัติศาสตร์ของภาษีและประโยชน์ของนิติบุคคล
    • บทที่ 5 บทเรียนที่ 5 : คนรวยสร้างเงินได้เอง
    • บทที่ 6 บทเรียนที่ 6 : ทำงานเพื่อเรียนรู้ - อย่าทำงานเพื่อเงิน
    • บทที่ 7 บทเรียนที่ 7 : ก้าวข้ามอุปสรรค
    • บทที่ 8 บทเรียนที่ 8 : เริ่มต้นลงมือทำ
    • บทที่ 9 บทเรียนที่ 9 : คำแนะนำเพิ่มเติม สิ่งที่คุณต้องทำ
    • บทส่งท้าย : แบบฝึกหัด
  • รีวิวจากลูกค้า

    joeb*****hotmail.com
    1 ปีที่แล้ว
    • 0

    เล่มนี้ ก่อให้เกิดกระแสมากเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ผมตอนจบมา รู้ว่าอะไรควรซื้อ อะไรควรรอ อะไรควรทำก่อน อะไรคือทรัพย์สินที่แท้จริง ทำให้ผมตัดสินใจ ยังไม่ออกรถ แต่เก็บออม ขยันทำงาน นำเงินไปลงทุน แล้วผ่านไปหลายปีค่อยออกรถ ยอมใช้ขนส่งสาธารณะ แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ถูก ทำให้เรามีเงินต้นไปลงทุนก่อน แนะนำครับ

  • ตัวอย่างให้ฟังไว้เป็นไอเดียในการสร้างงาน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สหกรณ์และกลุ่มเครือข่ายธุรกิจของคุณ 100%

สร้างสหกรณ์จากเวลาว่างหลังเลิกงานตอนเย็นของคุณ

สร้างสหกรณ์ผู้บริโภคสร้างปันผลให้คุณ